กาฬสินธุ์ปิดอำเภอคำม่วงเดินหน้ายุทธการฟ้าแดดสงยางจับยกบ้านเครือข่ายค้ายาบ้า
กาฬสินธุ์เดินหน้ายุทธการฟ้าแดดสงยางนำกำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองกว่า 200 นายปิดอำเภอคำม่วงปูพรมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย ตะลึงจับยกครัวแม่ ลูกสาวและลูกเขยเครือข่ายค้ายาบ้า
ความคืบหน้าการกวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ตามยุทธการฟ้าแดดสงยาง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2561 ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 63 คน ใน 77 เป้าหมาย ได้ของกลางยาบ้าและอาวุธปืน และนำไปสู่การขยายผล จับกุมสายแจ้งข่าวให้กับนักค้ายาบ้า เป็นพนักงานราชการ 6 คน ที่ผ่านมายังสามารถจับกุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หน้าห้องรองผู้ว่าราชการจังหวัด และทำการขยายผลพร้อมสั่งให้นายอำเภอทั้ง 18 อำเภอ นำยุทธการนี้ไปกวาดล้างยาเสพติด ตามสถานที่ราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานบริการห้องพัก และไล่พนักงาน อปท.ออกอีก 9 ราย เนื่องจากตรวจพบฉี่สีม่วงตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 12 พฤษภาคม 2561 นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.อ.สมบัติ จินดาศรี รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ นายธนูสินธุ์ ไชยศิริ ปลัด จ.กาฬสินธุ์ ร้อยโทธวัชชัย เหมวัง นายอำเภอคำม่วง พ.ต.อ.วัฒนา เกษรมาลา ผกก.สภ.คำม่วง นายณรงค์ วรหาญ ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปปส.ภาค 4 ร.ต.อ.พงศกร อ่อนละมุล ผบ.มอ.กก.ตชด.23 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค 4 เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ตชด.23 และชรบ.กว่า 200 นาย เข้าปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 12 จุด ในพื้นที่ อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ตามยุทธการฟ้าแดดสงยาง ระดมกวาดล้างยาเสพติด
โดยนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ นำเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 170 ม.3 ต.ทุ่งคลอง อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านต้องสงสัยเครือข่ายค้ายาเสพติดและเป็นบ้านหลังเป้าหมายหลัก พบ น.ส.จิน กงกาหน อายุ 38 ปี เจ้าของบ้าน พร้อม น.ส.ยุพวดี ทิพอุทัย อายุ 21 ปี และนายศิลประชัย เพ็ชรูจี อายุ 20 ปี ลูกสาวและลูกเลย กำลังพักผ่อนอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น โดยจากการตรวจค้นตัวน.ส.จิน พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในเสื้อชั้นในที่กำลังสวมใส่จำนวน 20 เม็ด จากการค้นตัวน.ส.ยุพวดี พบยาบ้าซุกซ่อนในเสื้อชั้นใน 20 เม็ด และจากการค้นตัวนายศิลประชัยพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงอีก 11 เม็ด รวมของกลางยาบ้า 51 เม็ด จึงควบคุมตัวมาสอบสวน
โดยทั้ง 3 คนรับสารภาพว่า เป็นแม่ ลูกสาว และลูกเขย มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งยาบ้าทั้งหมดนำมาจากเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี เพื่อเอามาจำหน่ายให้กับกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มคนใช้แรงงานในพื้นที่ พร้อมกับเก็บเอาไว้เสพเอง ซึ่งทำมานานแล้ว ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงให้นางจินโทรศัพท์ติดต่อไปยังเครือข่ายค้ายาดังกล่าว ซึ่งปรากฏว่ามีผู้รับสายเป็นผู้หญิง จึงวางแผนเพื่อที่จะทำการขยายผลตามตัวผู้ร่วมขบวนการ พร้อมกับคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.คำม่วงดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามสำหรับปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ อ.คำม่วง 12 จุดครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาครอบครองยาเสพติด (ยาบ้า)เพื่อจำหน่าย 2 ราย เสพ 6 ราย และมีอาวุธปืนอีก 1 ราย รวมทั้งหมดจำนวน 9 ราย พร้อมยึดของกลางยาบ้า 51 เม็ด อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก อาวุธปืนบีบีกัน 1 กระบอก และเงินสด 26,000 บาท
ด้านนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับผลการปฏิบัติการตามแผนยุทธศาสตร์ ของศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งหลังจากเปิดยุทธการฟ้าแดดสงยาง ระดมกวาดล้างยาเสพติดตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2561 จนถึงวันที่ 12 พฤษภาคม 2561 ผลการปฏิบัติการทั้ง 18 อำเภอพบว่า ด้านมาตรการกวาดบ้านตัวเอง โดยการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งผลการตรวจปัสสาวะข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างจำนวน 2,078 คน พบสารเสพติดและให้ออก 10 คน ตรวจปัสสาวะกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยฯจำนวน 5,174 คน พบสารเสพติดและให้ออก 19 คน ตรวจปัสสาวะข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น 1,213 คน พบสารเสพติดและให้ออก 15 คน ตรวจปัสสาวะพระภิกษุสามเณร 296 รูป พบสารเสพติดและให้สาสิกขาเข้าสู่ระบบคัดกรอง 31 ราย
ส่วนมาตรการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านทุกหมู่บ้านจับกุมผู้กระทำผิด 16 คน ของกลางยาบ้า 2,088 เม็ด กัญชา 1 กรัม กวาดล้างสถานบริการต่างๆพบผู้กระทำผิด 5 คน ของกลางยาบ้า 19 เม็ด ผู้เสพ 8 คน
สำหรับด้านการปราบปรามปิดล้อมตรวจค้นระดมกวาดล้างยาเสพติดภาพรวมทั้งจังหวัดสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 29 คน ของกลางยาบ้า 3,773 เม็ด ไอซ์ 2.41 กรัม กัญชา 114.96 กรัม อาวุธปืน 15 กระบอก กระสุนปืน 5 นัด ธนบัตรปลอมฉลับละ 1,000 บาท จำนวน 180 ฉบับ เงินสด 46,590 บาท ส่วนด้านการบำบัดรักษานำผู้เสพเข้าสู่ระบบคัดกรองและบำบัดในระบบสมัครใจในโรงพยาบาลของรัฐแล้วจำนวน 112 คน
นายไกรสร กล่าวอีกว่า สำหรับยุทธการดังกล่าวจะคงมีปฏิบัติการต่อไป และจะเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะการป้องกันและปราบปราม ทั้งผู้ขายและผู้เสพ เพื่อที่จะให้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ลดน้อยลงหรือหมดสิ้นไป ซึ่งการปฏิบัติการดังกล่าวจะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งรู้ปัญหาและทราบการเคลื่อนไหวของประชาชนในพื้นที่ดี ดังนั้นจึงต้องช่วยกันแจ้งเบาะให้เจ้าหน้าที่ เพื่อที่จะทำให้ยาเสพติดหมดไปจากสังคม